Online Training หลักสูตรการจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ ยุค 4.0
(Warehouse Management and Inventory Control for Industry 4.0)
; วันที่ 13 พฤษภาคม 2566
เวลา 09.00-16.00 น.
หลักการและเหตุผล
การจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) เป็นการจัดการในการรับ การตรวจสอบและตรวจนับ การจัดเก็บสินค้าและวัตถุดิบได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องในส่วนขาเข้า (inbound) รวมถึง การหยิบสินค้า ตรวจสอบ และจัดส่งสินค้าให้ผู้รับเพื่อกิจกรรมการขายตามคำสั่งซื้อของลูกค้าในส่วนขาออก (Outbound) เป้าหมายหลักในการบริหารและดำเนินการจัดการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้าก็เพื่อให้เกิดระบบที่ดี มีประสิทธิภาพและคุ้มกับการลงทุน รวมถึงการควบคุมคุณภาพของการเก็บ การหยิบสินค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย การป้องกันและลดการสูญเสียจากการดำเนินงานเพื่อให้ต้นทุนการดำเนินงานต่ำที่สุด เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า และการใช้ประโยชน์เต็มที่จากพื้นที่คลังสินค้า การจัดการคลังสินค้าจึงนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่งในโซ่อุปทาน
การควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory Control) สินค้าคงคลังมีวัตถุประสงค์ในการสร้างความสมดุลในซัพพลายเชน เพื่อให้ระดับสินค้าคงคลังต่ำสุด โดยไม่กระทบต่อระดับการให้บริการ โดยปัจจัยนำเข้าของกระบวนการผลิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่งคือ วัตถุดิบ ชิ้นส่วนและวัสดุต่างๆ ที่เรียกรวมกันว่าสินค้าคงคลัง ต้นทุนสินค้าคงคลังเป็นต้นทุนการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนั้นการจัดการสินค้าคงคลังมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ที่สามารถมีสินค้าคงคลังบริการลูกค้าในปริมาณที่เพียงพอ และทันต่อการความต้องการของลูกค้าเสมอ เพื่อสร้างยอดขายและรักษาระดับของส่วนแบ่งตลาดไว้โดยสามารถลดระดับการลงทุนในสินค้าคงคลังต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงด้วย
ดังนั้นการจัดการคลังสินค้าและการควบคุมสินค้าคงคลังจึงเป็นสิ่งจำเป็นและต้องทำร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสามารถป้อนวัตถุดิบให้กับสายการผลิตได้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลิตและส่งมอบสินค้าได้ทันตามเป้าหมายที่กำหนด ในขณะที่คลังสินค้ามีปริมาณสินค้าวัตถุดิบในจำนวนที่เหมาะสม ไม่มากและน้อยจนเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาด้านการผลิตซึ่งจะทำให้ต้นทุนการจัดเก็บสินค้าคงคลังต่ำอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ผลดำเนินการทางธุรกิจดีขึ้น พนักงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีกำไรมากขึ้น สามารถผลิตสินค้าได้รวดเร็วและเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่คลังสินค้าขนาดใหญ่อีกต่อไป รวมถึงปัญหาการดำเนินการต่างๆภายในคลังสินค้าลดลง ยิ่งกว่านั้นโลกธุรกิจในยุคต่อไปนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และจะยิ่งเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคตจนเราอาจตามไม่ทันก็ได้ โดยเฉพาะกับธุรกิจที่เข้าสู่รูปแบบที่เรียกว่า Digital Platform ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้เทคโนโลยี Internet ในการผลักดันธุรกิจให้เติบโตรวมถึงการปรับ Business Model ให้สอดคล้องกับการเติบโตที่รวดเร็วในยุค 5G ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
วัตถุประสงค์และประโยชน์ที่จะได้รับ
- ได้รับความรู้และหลักการในการบริหารจัดการคลังสินค้าแบบทั่วไปเปรียบเทียบกับระบบสมัยใหม่ Warehouse Management System (WMS) พร้อมการวิเคราะห์ประเมินข้อดีข้อเสียในการปรับใช้ด้วยประสบการณ์จริงของวิทยากร ทำให้ไปปรับใช้เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพในคลังสินค้าได้ทันที โดยไม่ต้องลองผิดลองถูก ซึ่งจะครอบคลุมงานดังนี้
- เรียนรู้ระบบการทำงานหลัก 7 งานในคลังสินค้าตั้งแต่
- การควบคุมปริมาณการสั่งวัตถุดิบ /หรือ สั่งสินค้าทั้งใหม่และที่ ขายอยู่ประจำ ข้อตกลงกับ Supplier
- การรับสินค้า
- การจัดเก็บสินค้า
- การบริหารจัดการการจัดออร์เดอร์ทั้งแบบ Break Case และ Full Case
- การเติมสินค้า
- การตรวจนับความถูกต้องของออร์เดอร์
- การจัดส่ง
- เรียนรู้หลักการบริหารคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ การขยายกำลังความสามารถการจัดเก็บสินค้าทั้งแบบเพิ่มพื้นที่และการไม่เพิ่มพื้นที่ การเพิ่มการจัดเก็บในช่วงสินค้าขายดีเช่น ช่วงเทศกาลต่างๆ
- เรียนรู้เทคนิคการจัดออร์เดอร์ปริมาณได้อย่างรวดเร็ว
- เรียนรู้เทคนิคการลดปริมาณสินค้าคงคลังเพื่อประหยัดพื้นที่และค่าใช้จ่าย
- เรียนรู้เทคนิคต่างๆในการลดค่าขนส่งในธุรกิจต่างๆ
- การบริหารให้มีพนักงานเพียงพออยู่ตลอดเวลา
- เรียนรู้เรื่องราวทั้งหมดพร้อมตัวอย่างจากการทำงานจริงเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดไม่ต้องลองผิดลองถูก
หัวข้อการอบรม/กำหนดการ
09:00 - 16:00
- เทคนิคในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในกิจกรรมต่างๆทั้งระบบธรรมดาและระบบ Warehouse Management System (WMS) พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
- Barcode , Barcode Reader, RF (Radio Frequency System), RF Access Point, Handheld Scanner
RF Monitor on Lift Truck, Picking Conveyor Line, Automatic Carton Forming, Automatic Carton Sealer - การนำวิธีทำงานที่มีประสิทธิภาพของบริษัทชั้นนำทั้งภายในและต่างประเทศ (สหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฯ) มาถ่ายทอดอย่างไม่ปิดบัง (Best Practices Sharing)
- รายละเอียดกิจกรรมต่างๆ 7 งานหลักในคลังสินค้าและสิ่งที่ต้องทำให้ครบถ้วนสมบูรณ์
1. การสั่งสินค้าให้พอเหมาะ
2. Receiving การรับสินค้า รับให้เร็ว เช็คความถูกให้ครบถ้วน
3. Putaway การจัดเก็บ การเก็บให้เร็ว การวางสินค้าในตำแหน่งที่ดี Automatic Stock Locator Recommendation, Automatic Stock Discrepancy Warning Replenishment
4. การเติมสินค้า เติมสินค้าให้เร็วในการจัดออร์เดอร์ ในเวลาที่ต้องการ
5. Picking การจัดออร์เดอร์ จัดให้เร็ว จัดให้ครบ ด้วยวิธีต่างๆ
- ระบบ Manual
- ระบบ Semi-Manual (With Scanner)
- ระบบ Voice Order Picking (หยิบเต็มกล่อง-Full Case)
- ระบบ Pick to Light (หยิบสินค้าหลายอย่างใส่กล่องเดียว-Break Case)
- ระบบ Put to Light หยิบสินค้าหลายอย่างใส่กล่องเดียว-Break Case)
- Order Checking การตรวจสอบความถูกต้องของการจัดออร์เดอร์
- ระบบ Manual
- ระบบ Scanner
- ระบบ Check Weigher by Product Weight
6. Order Completion Checking before Loading (Checker) ตรวจออร์เดอร์ก่อนขึ้นรถ
7. Transportation ส่งให้ได้ต้นทุนต่ำสุด ส่งให้เร็ว เสียหายน้อย Volume Calculation for Optimal Loading ขึ้นของให้เต็มคันด้วยการคำนวณปริมาตร
- การบริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ(กรณีศึกษาและBest Practices Sharing จากการทำงานจริงของวิทยากร)ถามตอบ อภิปรายเพื่อเสริมการเรียนรู้เพิ่มเติม
- การสร้างขวัญกำลังใจให้พนักงานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- เพิ่มพื้นที่จัดเก็บด้วย Very Narrow หรือ Narrow Aisle Racking System
- หลักการทำงานให้เป็นระบบ
- การจัดกลุ่มสินค้าในคลังสินค้าและจัดเก็บปริมาณสินค้าให้ได้ Optimal Stock Level
- การบริหารจัดการเพื่อลดปริมาณสินค้า Slow Moving และ Dead Stock
- การวัดผลการดำเนินงานของการจัดการคลังสินค้าด้วย KPI ที่ครอบคลุม
- การเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคนิค Cross Docking
- การให้พนักงานมีส่วนร่วมในการบริหารคลังสินค้า
- ระบบเตือนเพื่อป้องกันไม่ให้ผลงานตกลงนานเกินไป
- การบริหารเพื่ดการลดค่าขนส่ง
- การอบรมพนักงานทั้งใหม่และเก่าให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- หลักการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย Lean Six Sigma
- การควบคุมการลางานของพนักงาน
- การสื่อสารให้หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา
- การวัดผลและการเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
- Daily – Monthly Report ที่สมบูรณ์แบบ
- บริหาร KPI ของคลังสินค้าอย่างถูกต้อง
- ปิดการสัมมนา
วิทยากร (Trainer) อาจารย์สมฤทธิ์ ชุณหรัศมิ์
อัตราค่าลงทะเบียน
(รวมค่าเอกสาร อาหารกลางวัน และอาหารว่างตลอดการสัมมนา)
ค่าอบรม |
ราคาก่อน VAT |
VAT 7% |
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% |
ราคาสุทธิ/ท่าน |
ราคาท่านละ |
3,900 |
273 |
(117) |
4,056 |
Early Bird จ่ายก่อนลดพิเศษ |
3,500 |
245 |
105 |
3,640 |
Pro สมัคร 3 ท่านๆละ |
3,300 |
231 |
99 |
3,432 |
ทุกหลักสูตร “มอบวุฒิบัตร ใบรับรองจากสถาบันโปรเฟสชั่นแนล เทรนนิ่ง โซลูชั่น